โรคข้อเข่าเสื่อม
ปวดเข่า โรคข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อมเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ
ของอาการปวดข้อในคนที่อายุมากกว่า 40
ปี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงวัยหลังหมดประจำเดือน
นอกจากนี้
คนที่อ้วนหรือทำงานหนัก เช่น แบกของ
ยืน วิ่งหรือเดินมากๆ เป็นต้น
อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร เนื่องจากผิวข้อมีการเสียดสีกันมากกว่าปกติจึงทำให้เกิดการสึกกร่อนได้ง่ายขึ้น
ข้อเข่าเสื่อมเกิดจากสาเหตุอะไร
ผิวของข้อเข่ามีกระดูกอ่อนผิวเรียบปกคลุมอยู่ ทำหน้าที่เสมือนโช้คอัพรองรับและกระจายน้ำหนัก ภายในข้อเข่ามีน้ำไขข้อหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อรอบเข่า เพื่อป้องกันการสึกกร่อนของข้อเข่า เมื่ออายุมากขึ้นหรือรับน้ำหนักมากเกินไปหรือมีการบาดเจ็บ กระดูกอ่อนตรงผิวข้อเข่าจะค่อยๆ
สึกกร่อน มีกระดูกงอก(หินปูนเกาะ)
ขรุขระและมีการสูญเสียน้ำไขข้อในข้อเข่า ทำให้ข้อเข่าเกิดเสียงดังในข้อและมีอาการปวดขัดเมื่อมีการเคลื่อนไหว หากข้อเข่าที่เสื่อมมีการอักเสบก็จะมีการสร้างน้ำไขข้อในข้อเข่าเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอาการบวม
ตึงและปวดของข้อเข่า
เมื่อข้อเข่าเสื่อมมากขึ้นจะมีอาการโก่งงอ ทำให้เกิดอาการปวดเข่าทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวพร้อมทั้งทำให้ข้อเข่ามีขนาดใหญ่ขึ้น ในที่สุดผู้ป่วยต้องใช้ไม้เท้าช่วยหรือบางคนจะเดินน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อที่ขาลีบลง
ข้อจะยึดติดเหมือนมีสนิมเกาะ เหยียดขาได้ไม่สุด
·
เริ่มแรกจะมีอาการปวดเมื่อยเข่าหรือน่อง ถ้าเป็นมากขึ้นจะปวดขัดบริเวณเข่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือลุกนั่ง หรือเดินขึ้นบันไดและอาการปวดขัดจะเรื้อรัง
·
บางครั้งอาจมีเสียงดังกรอบแกรบขณะเคลื่อนไหว
·
มักจะปวดมากเวลาเปลี่ยนจากท่านั่งเป็นท่ายืนหรืออยู่ในท่างอเข่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานั่งคุกเข่า
พับเพียบหรือขัดสมาธินานๆ
หรือเดินขึ้นลงบันได หรือยกของหนัก
·
ข้อเข่ายึดติด
ผู้ป่วยจะไม่สามารถเหยียดหรืองอขาได้สุดเหมือนเดิม
·
อาการปวดข้อมักจะเป็นตอนกลางคืน
หรือเวลาอากาศเปลี่ยนแปลงหรืออากาศเย็นชื้น
·
ข้อที่ปวดมักจะไม่มีอาการบวม
แดง ร้อน (ยกเว้นในกรณีเป็นมากอาจมีอาการบวมและมีน้ำขังอยู่ในข้อ)
ข้อเข่าเสื่อมอันตรายอย่างใด
ถึงแม้ว่าข้อเข่าเสื่อมจะสร้างความทรมานและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก แต่อันตรายของข้อเข่าเสื่อมใช่ว่าจะเกิดจากโรคที่เป็น หากเกิดจากการใช้ยาแก้ปวดและยาสเตอรอยด์เป็นประจำต่างหาก เนื่องจากพิษของยาจะส่งผลร้ายต่อร่างกายในหลายด้าน เช่น โรคกระเพาะอาหารทะลุ เลือดออกในกระเพาะอาหาร เป็นพิษต่อตับทำให้เซลล์ตับตาย ตับเสื่อมสภาพ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน โรคคุชชิงหรือโรคติดเชื้อรุนแรง เป็นต้น
การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดข้อเข่าเสื่อมอย่างไร...
การแพทย์จีนได้จัดโรคข้อเข่าเสื่อมให้อยู่ในกลุ่มโรคชาและปวดเมื่อย
(痹症)
ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก ควา
มเสื่อมตามวัยหรือพิษเย็น-ชื้น (风寒湿邪)
ที่สะสมบริเวณข้อเข่า
ทำให้หลอดเลือดและเส้นลมปราณติดขัด
กีดขวางการไหลเวียนของโลหิตและพลังลมปราณ
จนเกิดอาการปวดขึ้นมา
ซึ่งสอดคล้องกับหลักการวินิจฉัยและรักษาอันสำคัญของการแพทย์จีนคือ ปวดแสดงว่าไม่โล่ง
โล่งแล้วก็จะไม่ปวด (通则不痛,痛则不通) นอกจากนี้
การไหลเวียนของโลหิตและพลังลมปราณบริเวณข้อเข่าที่ติดขัด จะทำให้เส้นเอ็น
กล้ามเนื้อและกระดูกได้รับการหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ พร้อมทั้งไม่สามารถขับพิษเย็น-ชื้นที่สะสมและสารพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเมตาบอลิซึมออกไปได้หมดสิ้น ส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่างๆ
บริเวณข้อเข่า
การแพทย์จีนจึงนิยมใช้วิธี กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
สลายเลือดคั่ง ขับพิษและแก้ปวดบวม (活血化淤,清热消毒) เพื่อบำบัดต้นเหตุของโรคเข่าเสื่อม
โดยมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญดังนี้
·
กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
สลายเลือดคั่ง
ทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตขนาดเล็ก (Microcirculation) บริเวณข้อเข่าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อกระตุ้นการขับสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายข้อ สารที่ก่อให้เกิดอาการปวด
(เช่น สารเบต้าโปรตีน ไกลโคโปรตีนและฮิสตามิน เป็นต้น) รวมทั้งกรดแล็กติกที่สะสมอยู่ในบริเวณข้อเข่าออกไปให้มากขึ้นจึงสามารถลดการระคายเคืองเยื่อหุ้มข้อและบรรเทาอาการปวดบวมได้อย่างเด่นชัด
·
ช่วยการไหลเวียนโลหิตขนาดเล็กบริเวณข้อเข่าที่ดีขึ้นจะทำให้เส้นเอ็น ประสาท
กล้ามเนื้อและกระดูก ได้รับการหล่อเลี้ยงได้มากขึ้น ข้อเข่าบริเวณที่เสื่อมสภาพจึงได้รับการฟื้นฟูและซ่อมแซมได้เร็วขึ้นและมากขึ้น
·
ปรับลดระดับความรุนแรงของปฏิกิริยาการตอบโต้จากระบบต่อมไร้ท่อเมื่อข้อเข่าอักเสบ จึงลดการสร้างและการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายข้อ พร้อมทั้งลดการหดเกร็งของหลอดเลือดบริเวณที่บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ